สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอิสราเอล

ดิ อเมริกันโคโลนี โฮเต็ล

เมื่อ 100 กว่าปีก่อน ปาชาผู้มั่งคั่งคนหนึ่งได้สร้างวิลลากึ่งป้อมปราการที่เพียบพร้อมด้วยห้องพักฤดูหนาวและฤดูร้อนให้แก่ภรรยาทั้งสี่คน ปุจจุบันวิลลาแห่งนี้ตั้งเด่นเป็นสง่าในกรุงเยรูซาเล็ม ในฐานะ ดิ อเมริกันโคโลนี โฮเต็ล เป็นสถานที่พบปะยอดนิยมในหมู่นักการทูตนานาชาติ ผู้สื่อข่าว ตลอดจนชาวอังกฤษ และอเมริกันที่อาศัยในเมืองนี้ บรรยากาศช่างเหมาะจะเป็นริกส์คาเฟ่ที่อบอวลด้วยความรักและความลึกลับอย่างที่เห็นในภาพยนตร์เรื่อง Casablanca ยิ่งนัก ประตูซุ้มโค้งแบบแขกมัวร์ กระเบื้องสี และ เพดานไม้กำปั่นทาสีสันสวยงามที่ประดับในห้องพักบางห้อง สร้างเสน่ห์ไม่เหมือนที่ไหน รอบโรงแรมมีสวนสวยร่มรื่นด้วยน้ำพุ และต้นมะนาว เสมือนโอเอซิสที่เชิญชวนให้คนแวะมาดื่มหรือกินบุฟเฟ่ต์มื้อกลางวันแบบคอนติแนนตัลตะวันออกกลางอันลือชื่อ ของโรงแรมที่จัดทุกวันเสาร์ เจ้าของเป็นชาวอังกฤษ แต่โรงแรมบริหารแบบสวิส พนักงานส่วนใหญ่เป็นชาวปาเลสไตน์ การมาพักที่นี่คุ้มค่ากันเงินจำนวนมากที่จ่ายไป โดยเฉพาะ ผู้ที่เข้าพักในห้องที่ตกแต่งสไตล์ปาชา ซี่งรักษาความหรูหราตามประเพณีดั้งเดิมสำหรับขุนนางในอดีต

ประเภท : โรงแรม
ที่ไหน : Nablus Road นอกกำแพงเก่า เดิน 10 นาที จากประตูดามากัส ในเมืองเก่า www.americancancolony.com
ราคา : ห้องคู่เริ่มที่ $290 ห้องแบบปาชา $340 บุฟเฟ่ต์ มื้อกลางวันเสาร์ $35
ช่วงดีที่สุด : เมษายน – กันยายน

คริสมาสต์ในเบธเลเฮ็ม

ความหวังที่จะเห็นสันติภาพไม่เคยเหือดแห่งในเบธเลเฮ็ม เมืองคริสเตียน - อาหรับอยู่ในความเปราะบางทางการเมืองมาชั่วกาลนาน แม้เบธเลเฮ็ม จะกลายเป็นเมืองพาณิชย์ไปแล้วก็ตาม แต่การได้มาร่วมฉลองในคืนคริสต์มาส ณ สถานที่ประสูติของพระเยซู ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับชาวคริสต์ คืนนั้น จะมีผู้คนไปฟังคณะนักร้องประสานเสียงจากทั่วโลกร่วมขับร้องเพลงที่แมนกอร์สแควร์กันอย่างเนืองแน่น นักจาริกแสวงบุญดั้นด้นมาที่นี่กว่า 1,600 ปีแล้ว นับตั้งแต่ปี 326 เมื่อพระราชินี เฮเลนา พระมารดาของพระเจ้าคอนสแตนติน มหาราชแห่งโรมันพบถ้กที่เป็นสถานที่ประสูติ ของพระเยซู ปัจจุบันติดรูปดาวสีน้ำเงิน 14 แฉกเป็นเครื่องหมายกำหนดไว้ โบสถ์นาติวิตี ซึ่งสร้างเสร็จเมื่อปี 333 เป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ล่วงละเมิดมิได้ของชาวคริสต์ เป็นโบสถ์ที่ชาวกรีก ออร์ทอดอกซ์ และอาร์เมเนียน ใช้ร่วมกัน พิธีฉลองคริสต์มาสจะจัดขึ้นในวันที่ 24 และ 25 ธันวาคม สำหรับชาวคาทอลิก วันที่ 7 มกราคม สำหรับชาวกรีก ออร์ทอดอกซ์ และ 19 มกราคม สำหรับชาว อาร์เมเนียน หลังพิธีสวดมิซาช่วงเที่ยงคืนของวันที่ 24 ธันวาคมจบลง ผู้ร่วมฉลองจะอยู่ต่อที่แมนกอร์สแควร์ เพื่อร่วมร้องเพลง “จิงเกิล เบลล์” และคริสต์มาสโคโรลภาษาอารบิก

ประเภท : สถานที่ เหตุการณ์
ที่ไหน : ห่างจากเยรูซาเล็มไปทางตะวันตก 10 กม.
อย่างไร : ติดต่อ Franciscan Pilgrims’ Office ที่พูดภาษาอังกฤษที่ Jaffa Gafe เยรูซาเล็มล่วงหน้าเพื่อจะได้มีสิทธิ์ร่วมกิจกรรม (ความตึงเครียดในบริเวณนี้ ทำให้การฉลองคริสต์มาสต้องงดชั่วคราว)

ทะเลสาบเดดซี

หากไปทะเลสาบเดดซีต้องลงไปลอยตัวในน้ำ หากไปเวนิสตั้งนั่งเรือกอนโดลา และหากไปมหาพีระมิดกีซาต้องขี่อูฐ ทั้งหมดดูเป็นเรื่องที่ได้ยินจนเบื่อ แต่ก็ยังเป็นเรื่องที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด โดยเฉพาะการลอยตัวและจุ่มโคลนในเดดซี ซึ่งอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล 398 ม. เป็นบริเวณที่อยู่ต่ำสุดบนผิวโลก น้ำในทะเลสาบเดดซี มีความเข้มข้นของเกลือสูงกว่าที่ใด ๆ อย่าลืมติดหนังสือพิมพ์ไปอ่านสักฉบับขณะลอยตัวในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนถึงเจ็ดเท่า ความเชื่อที่ว่า โคลนของเดดซีช่วยรักษาโรคและเสริมความงามเป็นตำนานหนึ่งในดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์มาตั้งแต่ในสมัยราชินีซีบา (พระนางคลีโอพัตราเคยมาที่นี่เพื่อบำบัดด้วย) ปัจจุบันกิจการสปาผุดขึ้นมากมาย รอบบริเวณที่อุดมสมบูรณ์ด้วยแร่ธาตุ และบ่อน้ำพุร้อนตลอดจนรอบ ๆ ชายฝั่งคิบบุตซ์ เอ็น-เจดิ โรงแรมในคิบบุตซ์ เป็นที่พักแห่งเดียวอยู่นานหลายปี แต่ตอนนี้มีโรงแรมเกิดใหม่หลายแห่ง การดูแลที่ทันสมัยทีสุดคือการพอกหน้าและร่างกายด้วยโคลน และขัดตัวด้วยเกลือคริสตัลจากเดดซี ผสมกับน้ำมันหอมโบราณ

พิพิธภัณฑ์อิสราเอล

แม้จะมีเวลาไม่มากนัก แต่การเดินเที่ยวในพิพิธภัณฑ์อิสราเอลที่มีอาณาเขต 50 ไร่ ก็พอจะให้คุณได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ และมรดกของอิสราเอลไม่น้อย พิพิธภัณฑ์เปิดในปี 1965 เป็นตัวอย่างที่ดีของสถาปัตยกรรมอิสราเอล ที่ทันสมัย และเก็บรักษา งานของชาติยิวที่สมบูรณ์ ที่สุดของโลก โดยเน้นหนักที่วัฒนธรรม Ashkenazi และ Sephardic ภายในพิพิธภัณฑ์ มีสถาปัตยกรรมโบสถ์ยิว อายุนับร้อยปี จากเยอรมนี อิตาลี และอินเดีย ห้อง เดอะไชรน์ ออฟ เดอะ บุ๊ก เป็นที่เก็บสะสม ม้วนคัมภีร์เดดซี เมื่อ 100 ปีก่อนคริสตกาล โดมทรงหัวหอมสีขาว ของโบสถ์จำลองรูปทรงฝาครอบ ของเครื่องปั้นดินเผา ที่ใช้เก็บม้วนคัมภีร์ที่คนเลี้ยงแก่ไปพบเข้าในปี 1947 บริเวณปีกที่จัดแสดงงานโบราณคดีแสดงวัตถุโบราณชิ้นใหญ่ และสำคัญ ๆ ที่ขุดพบจากทั่วอิสราเอล สวนประติมากรรมบิลลีโรส บนเนื้อที่ 50 ไร่นั้นเป็นจุดที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุด ในบรรดานิทรรศการภายนอก ศิลปินชาวอเมริกันเชื้อสายญี่ปุ่นเป็นคนตกแต่งภูมิทัศน์ สวนนี้จัดแสดงงานประติมากรรม สมัยใหม่ และคลาสสิกของศิลปินใหญ่น้อยชาวอิสราเอลเอง และของศิลปินนานาชาติ

ประเภท : สถานที่
ที่ไหน : Ruppin St. อยู่ทางใต้ของคเนสเซต www.imj.org.il
ราคา : $8
เมื่อไร : จันทร์ – เสาร์

มาซาดา

ป้อมมาซาดาตั้งโดดเด่นบนที่ราบสูงที่รายล้อมด้วยทะเลทรายเวิ้งว้าง เป็นที่สิงสถิตดวงวิญญาณชาวยิวนับร้อยมาตั้งแต่อดีต พระราชวังและป้อมปราการหินแห่งนี้สร้างโดยพระเจ้าเฮร็อดมหาราช ตัวป้อมอยู่สูงจากชายฝั่งของเดดซี 439 ม. หลังพระองค์สิ้น พระชนม์ก็ถูกปล่อยทิ้งร้าง ต่อมากลายเป็นฐานที่มั่นของกองกำลังชาวยิวในการต่อสู้กับอำนาจของโรมในปี ค.ศ. 73 ครั้งนั้นชาวยิวจำนวน 967 คน ทั้งหญิงชายและเด็กรับมือชาวโรมันที่เข้าโจมตี ที่นี่ได้นานถึง 3 ปี แต่ไม่อาจต้านทานกองทหารกว่า 15,000 นาย ที่ตั้งต่ายล้อมอยู่ตรงตีนเขา พวกเขาเลือกความตายด้วยการทำอัตวินิบากกรรมหมู่ ทุกวันนี้ ชาวยิว ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ ที่ต้องเดินเท้าขึ้นเขาไปสักการะและรำลึกถึงความสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของประวัติศาสตร์ชาติยิว จะได้เห็นดวงอาทิตย์ค่อย ๆ ลอยโผล่เหนือขอบฟ้าของจอร์แดน และทะเลสาบเดดซี ตอนหัวค่ำมีการแสดงแสงสีเสียงที่เนินเขา

ประเภท : สถานที่
ที่ไหน : ห่างจากเยรูซาเล็มทางรถยนต์ 1.5 ชม. และ 2.5 ชม. จากเทลอาวีฟ
ราคา : รถกระเช้า $10 ค่าเข้าชม $4
ช่วงที่ดีที่สุด : เมษายน – กันยายน

โอลด์อักโค

โอลด์อักโค ซึ่งตั้งอยู่ภายในกำแพงยุคออตโตมันขนาดใหญ่ นั้นเป็นของดั้งเดิม ไม่ได้ผ่านการบูรณะและตกแต่งใด ๆ หรือทำให้เป็นย่านจิตรกร ทั้งนักบุญฟรานซิส และมาร์โค โปโล ต่างเคยแวะมาที่นี่ขณะที่เมืองนี้เป็นที่มั่นของนักรบครูเสดในดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ เมือง อักโคเก่าที่เห็นอยู่นี้สร้างทับบนเมืองเก่าของอัศวิน ครูเสดในศตวรรษที่ 18 การขุดค้นทางโบราณคดี นี้ทำให้พบเส้นทางใต้ดินที่เคยเป็นที่อยู่ของอัศวินและชาวบ้านกว่า 50,000 คน บนดินนั้นมีมัสยิดที่ประดับด้วยโมเสก และหอประกาศแจ้งเวลาสวดมนต์ สถานอาบน้ำแบบตุรกี และที่พักกองคาราวาน ชวนให้นึกถึงบรรยากาสของนิทานอาหรับราตรี โอลด์อักโค มีชีวิตชีวา แต่ไม่ใช่เกิดจากนักท่องเที่ยว ตลาด ยังคงขายเครื่องเทศ และข้าวของเครื่องใช้พื้นบ้าน ความสำคัญของอักโคในฐานะท่าเรือใหญ่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มีหลักฐานย้อนหลังไปถึงบันทึกสมัยปี ค.ศ. 1 ที่น่าทำคือหาที่นั่งบนระเบียงของอาบู คริสโต แล้วสั่งอาหาร เรียกน้ำย่อย แบบตะวันออกกลางมาลองลิ้มก่อนตามด้วยเนื้อปรลาสดย่างจากในเรือ

ประเภท : สถานที่ Old Akko ห่างจากเมืองไฮฟา ไปทางเหนือ 23 กม.
ราคา : มื้อค่ำ $25
ช่วงที่ดีที่สุด : ฤดูใบไม้ผลิ และฤดูใบไม้ร่วง

เมืองเก่า

นักท่องเที่ยวหลายคนถือว่าเมืองเก่าคือนครเยรูซาเลม เป็นสถานที่ที่มีมนุษย์อาศัยมากกว่า 4,000 ปี และเป็นที่เกิดศาสนาที่ยิ่งใหญ่ของโลกตะวันตกทั้งสาม อันได้แก่ ศาสนายิว คริสต์ และอิสลาม ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของโลก สุไลมานจอมอัศจรรย์ ทรงให้สร้างกำแพงเมืองขนาดใหญ่บนซากเก่าของโรมัน ในศตวรรษที่ 16 มีป้อมประตู 8 แห่ง สำหรับเข้า ประตูสำคัญ 2 แห่งคือ จาฟฟา และ ดามากัส พาไปสู่ตรอกคดเคี้ยว และตลาดของ 4 ชุมชนได้แก่ ย่านมุสลิม ย่านคริสเตียน ย่านอาร์เมเนียน และย่านยิว นี่คือหัวใจของเยรูซาเลมเก่าแก่ที่ไม่มีเส้นแบ่งเขตแดนเป็นรูปธรรม

สถานที่สำคัญหลายแห่งล้วนสร้างทับซ้อนกันมาตั้งแต่อดีต มัสยิดเอล-อักซา ที่เป็นโดมสีเงินหรูหรานั้นใหญ่ที่สุด และเป็นที่สวดมนต์ของอิสลามิกชนที่สำคัญรองจากนครเมกกะ และเมดินา ภูเขาวิหารซึ่งชาวมุสลิมเคารพนับถือ คือ เมาต์ โมไรฮาห์ ในคัมภีร์ไบเบิล เชื่อกันว่าที่นี่เป็นที่ตั้งของ เทมเพิล ออฟยูดาห์ ที่ 1 และที่ 2 แต่ถูกทำลายไปแล้ว ใกล้ ๆ กันคือกำแพงด้านตะวันตก หรือที่มักเรียกว่า กำแพงวิปโยค (Wailing Wall) เป็นกำแพงสูงในนครเยรูซาเลม ที่ตามประเพณี ชาวยิวนิยมไปสวดมนต์กันทุกวันศุกร์ เป็นส่วนสุดท้ายของกำแพงที่โอบล้อมและค้ำภูเขาวิหารและเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธ์ที่สุดของผู้สวดมนต์ในโลกของยิว ชาวยิวถูกห้ามเข้ามาที่นี่เมื่อบริเวณนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของจอร์แดนระหว่างปี 1949-1967 น่าลองไปเยือนตอนชาวยิวออร์ทอดอกซ์ ทำพิธีซับบาด้วยการสวดมนต์ ขณะที่อาทิตย์ลับขอบฟ้าทุกเย็นวันศุกร์ แต่ละปีนักจาริกแสวงบุญชาวคริสต์ นับหมื่นคนจะเดินย้อนรอยสู่โคโลโรซา ผ่านทางเดอะ สเตชั่น ออฟ เดอะครอส ตามเส้นทางที่เชื่อกันว่าพระเยซูเดินผ่านขณะแบกไม้กางเขนไปที่ตรึงกางเขน ที่ตั้งอยู่บนคัลวารี คือ เดอะเซิร์ช ออฟ เดอะโฮลี เซปพัลเคอ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของชาวคริสต์ ครอบคลุมสถานที่ตรึงกางเขน ที่ฝังพระศพและการคืนชีพของพระเยซู

หลังเดินเที่ยวซอกซอนตลาดย่านคริสเตียนที่ อบอวลด้วยกลิ่นเครื่องเทศ และเนื้อเคบับที่หอมยั่วน้ำลายแล้ว น่าแวะที่ร้านของฟอร์มิกาของอาบู ซูกริ เพื่อชิมโฮมุสของร้าน ชาวอิสราเอลเริ่มมื้ออาหารด้วยโฮมุส (ทำจากถั่วเขียวปรุงด้วยตาฮินิ แป้ง และงา) ไม่มีใครเบื่อของกินที่เรียบง่าย และแสนอร่อยนี้หรอก หลังจากใช้พิตาเบรดอุ่น ๆ กวาดโฮมุสจนเกลี้ยงจานแล้ว อาหารอิสราเอลแบบใหม่ พร้อมจะเกิดขึ้น แต่อาหารอารบิกตามท้องถนนก็คือ อาหารตะวันออกกลาง ที่ผู้คนชื่นชอบมาหลายพันปีแล้ว จานเด่นที่สุดคือ mezes หรืออาหารเรียกน้ำย่อยซึ่งก็มักจะมีโฮมุสที่เลื่องชื่อรวมอยู่ด้วย

ประเภท : สถานที่ ภัตตาคาร
The Old City : นั่งรถไฟเพลินชมทัศนียภาพ 90 นาที จากเทบอาวีฟ
Abu Shukri : 63 Al-Wad Street ในเมืองเก่า ใกล้ Fifth Station of the Cross บน the Via Dolorosa
ราคา :โฮมุส $3 เต็มมื้อ $5
ช่วงที่ดีที่สุด : เมษายน – กันยายน

เวเรด ฮาการิล

กาลิลี เป็นภูมิภาคที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดของอิสราเอล ตั้งแต่โบราณมา เนินเขาที่นี่งดงามด้วยดอกไม้ป่า และต้นไม้ผลิบานสะพรั่งตลอดเดือนกุมภาพันธ์ และมีนาคม พื้นดินแถบนี้ขรุขระ และยังไม่พัฒนา จึงเหมาะสำหรับการสำรวจโดยนั่งม้าเที่ยวไปตามเส้นทางเก่าแก่ ด้วยความอุตสาหะของมนุษย์ ทำให้เกิดสวนต่าง ๆ และไร่องุ่นไปตาทาง เวเรด ฮากาลิล อยู่บนสันเขาที่สวยงาม หลังเพลิดเพลินกับการเดิน ทางผ่านทุ่งเขียวขจี ข้ามทะเลน้ำจืดชื่อ ซี ออฟ กาลิลี และที่ราบสูงโกลัน ก็จะถึงเวเรด ฮากาลิล เป็นฟาร์มส่วนตัวของเยฮูดา และโยนาห์ อัฟนิ มีม้าให้เช่าโดยมีไกด์ นำทางเป็นรายชั่วโมง รายวัน หรือรายสัปดาห์ ท่องไปตามเนินเขา ไปในสถานที่ตามไบเบิล เช่น นาซาเร็ธ และเมาต์ ออฟเดอะบีทติจูดส์ จะพักแรมในนิคม เกษตรกรรม หมู่บ้านอาหรับ หรือพักตามบ้านเพื่อน ๆ ของอัฟนิ ก็ได้ สำหรับนักท่องเที่ยว ที่ไม่อยากขี่ม้าเที่ยว ก็มีทัวร์แบบใช้รถจี๊ป ให้เลือก พร้อมที่พักสะดวกสบาย แขกส่วนใหญ่ มักจะกลับมาให้ทันเวลาสำหรับอาหารโฮมเมดซึ่งผสมผสานอาหารอเมริกัน และตะวันออกกลาง ครอบครัวอัฟนิมีพร้อมหน้ากันถึงสามรุ่นซึ่งต่างเป็นมิตร และพนักงานหนุ่มสาวที่รู้เรื่องงานในไร่ดีต้อนรับตามแบบฉบับของกาลิลี

ประเภท : สถานที่ โรงแรม ประสบการณ์
ที่ไหน : ห่างจากชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของทะเลกาลิลี 5 กม. และห่างจาก เมืองไฮฟา 87 กม. vered@veredhagalill.co.il www.veredhagalil.co.il
ราคา : ห้องคู่เริ่มที่ $102 ช่วงสุดสัปดาห์ จองอย่างต่ำสองคืนสำหรับสุดสัปดาห์ ขี่ม้าเที่ยว 1 ชม. $23 ตลอดวัน (รวมอาหารกลางวัน) $135
ช่วงที่ดีที่สุด : กุมภาพันธ์ – มิถุนายน และ ตุลาคม – ธันวาคม